บอร์ดหนี้ฯ อนุมัติจัดงบฯ ซื้อหนี้สหกรณ์ให้สาขาขั้นต่ำ 6 ลบ./จังหวัดและอนุมัติรายชื่อเพื่อ ชำระหนี้แทนเกษตรกรกว่า 100 ลบ. พร้อมเห็นชอบร่างพรฎ.และระเบียบ ลด ปลดหนี้ฯ ก่อนเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาเห็นชอบ
วันที่ 14 พฤศจิกายน 2567 เวลา 09.30 น. ที่ห้องประชุมชั้น 3 สำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ประชุมคณะกรรมการจัดการหนี้ของเกษตรกร ครั้งที่ 22/2567 มีนายจารึก บุญพิมพ์ ประธานคณะกรรมการจัดการหนี้ฯ เป็นประธานการประชุม โดยนายสไกร พิมพ์บึง เลขาธิการ กฟก. มอบหมายให้ นายสมยศ ภิราญคำ รองเลขาธิการ เข้าร่วมประชุม พร้อมด้วย ผอ.สำนักจัดการหนี้ฯ รอง ผอ.สำนักจัดการหนี้ฯ หน.ส่วนจัดการหนี้ฯ 1,2,3 หน.ส่วนบริหารสินทรัพย์ ผู้แทนกรมส่งเสริมสหกรณ์ ผู้แทนปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และมีผู้เข้าร่วมประชุมทางไกลออนไลน์ (conference) ประกอบด้วย ผู้แทนกระทรวงการคลัง ผู้แทนปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ผู้แทน ธ.ก.ส.
ซึ่งที่ประชุมคณะกรรมการจัดการหนี้ฯ มีวาระสำคัญเพื่อพิจารณาดังนี้
1. เห็นชอบแผนการชำระหนี้แทนเกษตรกร ปีงบประมาณ 2568 เบื้องต้นจัดสรรให้จังหวัดละ 6,000,000 บาท ภายใต้กรอบงบประมาณ ปี2568 660 กว่าล้านบาท โดยจัดสรรให้กรอบงบประมาณชำระหนี้ -สหกรณ์ 452 ล้านบาท ธนาคารพาณิชย์ 100 ล้านบาท นิติบุคคล100ล้านบาท ธ.ก.ส. 1 ล้านบาท และจัดสรรไว้สำหรับค่าถอนการยึด และค่าธรรมเนียมตามกฎหมาย 7 ล้านบาท
ทั้งนี้ให้สำนักงานรายงานผลการดำเนินการชำระหนี้แทนเกษตรกรให้คณะกรรมการจัดการหนี้ฯและคณะกรรมการบริหารรับทราบ จนกว่าจะดำเนินการชำระหนี้แทนเกษตรกรตามกรอบงบประมาณ
2. อนุมัติรายชื่อและให้ชำระหนี้แทนเกษตรกร ที่เป็นลูกหนี้สหกรณ์ จำนวนทั้งสิ้น 106 ราย 160 สัญญา รวมมูลหนี้ทั้งสิ้น 100,320,107.78 บาท
3. อนุมัติใช้งบประมาณ พ.ศ. 2568 เพื่อใช้จ่ายค่าธรรมเนียมถอนการยึดทรัพย์ กรณีลูกหนี้ธนาคารพาณิชย์ นิติบุคคล (NPL) จำนวน 2,851,779.98 บาท
4. อนุมัติใช้งบประมาณ พ.ศ. 2568 เพื่อจ่ายค่าธรรมเนียมโอนกรรมสิทธิ์ทรัพย์ NPA จำนวน 11,419.00 บาท
5. เห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกาและระเบียบ 2 ฉบับ
– ร่าง พระราชกฤษฎีกา การผ่อนผันการชำระหนี้ ลดหนี้ ปลดหนี้ให้แก่เกษตรกร
– ร่าง ระเบียบคณะกรรมการกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข การผ่อนผันการชำระหนี้ ลดหนี้ร ปลดหนี้ให้แก่เกษตรกร
ทั้งนี้ให้ทางสำนักงานนำเสนอคณะกรรมการบริหารเห็นชอบ พร้อมทั้งนำต่อเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาเห็นชอบก่อนที่จะประกาศใช้ต่อไป.
/เครดิตรัฐภูมิ ขันสลี/ บุญยงค์ สดสอาด นายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดน่าน รายงาน