ศอ.บต. ยกทีมช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบฯ เหตุคาร์บอมแฟลตตำรวจนราธิวาส ย้ำ!!! ขอให้มั่นใจทุกภาคส่วนเร่งเดินหน้าเยียวยาทุกมิติอย่างเต็มที่
วันนี้ (9 ธันวาคม 2565) ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ร่วมกับศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือเยียวยาจังหวัด/อำเภอ จัดประชุมชี้แจงแนวทางการช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์คนร้ายลอบวางระเบิดคาร์บอม บริเวณแฟลตที่พักข้าราชการตำรวจจนเป็นเหตุทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย และผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงมีทรัพย์สินเสียหายเป็นจำนวนมาก เพื่อสร้างความเข้าใจต่อการให้ความช่วยเหลือของภาครัฐและการดูแลด้านจิตใจไม่ให้เกิดภาวะผิดปกติด้านสุขภาพจิตแก่ผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมีนายสมพร เนติรัฐกร ผู้ช่วยเลขาธิการ ศอ.บต. (กระทรวงสาธารณสุข) เป็นประธานการประชุมฯ พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และผู้ได้รับผลกระทบฯ เข้าร่วม ณ หอประชุมเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา ศาลากลางจังหวัดนราธิวาส
นายสมพร เนติรัฐกร ผู้ช่วยเลขาธิการ ศอ.บต. (กระทรวงสาธารณสุข) กล่าวว่า เป้าหมายของการดำเนินงานในครั้งนี้เพื่อสร้างความเข้าใจถึงความคืบหน้าในการช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบฯ ที่ขณะนี้ทุกภาคส่วนได้เร่งดำเนินการตามระเบียบทุกขั้นตอนที่กำหนด ขอให้ทุกคนเชื่อมั่นว่าภาครัฐจะไม่ทอดทิ้งแน่นอนและพร้อมเยียวยาอย่างเต็มที่
ด้านนางสาวลาตีฟ๊ะ แมเราะ นักจิตวิทยาปฏิบัติการ โรงพยายาลนราธิวาสราชนรินทร์ เปิดเผยว่า หลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโรงพยาบาลได้มีการจัดทีมเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตั้งโต๊ะคัดกรอง พร้อมให้คำแนะนำเยียวยาจิตใจประเมินความเสี่ยงอย่างต่อเนื่องแก่ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บรวมถึงครอบครัวของผู้ที่เสียชีวิตด้วย ซึ่งส่วนใหญ่พบว่ายังมีอาการภาวะซึมเศร้า วิตกกังวล แต่ไม่ถึงขั้นรุนแรง จึงได้มีการจดชื่อประวัติส่วนตัว เพื่อเป็นข้อมูลในการติดตามประเมินผลเป็นระยะๆ ในส่วนของเคสที่ไม่มีความเสี่ยงทางโรงพยาบาลได้มีการแนะนำในด้านสุขภาพจิตศึกษาซึ่งหากมีอาการผิดปกติให้สามารถเข้ามาขอคำแนะนำจากกลุ่มงานสุขภาพจิตได้ เชื่อว่าทุกอย่างต้องใช้เวลาดังนั้นขอให้ทุกคนตั้งสติไม่ตื่นตระหนกจนเกิดไป พักผ่อนให้เพียงพอ ตลอดจนสร้างสุขภาพจิตใจให้แข็งแรงและมีความสุข
ขณะที่นางเมธาพร กริชนิกรกุล หนึ่งในผู้ได้รับผลกระทบเหตุแฟลตตำรวจ ฯ เปิดเผยว่า ตนนั้นได้รับบาดเจ็บและทรัพย์สินทั้งรถและที่พักได้รับความเสียหายด้วย ซึ่งในวันที่เกิดเหตุตนตกใจมากและได้อุ้มลูกซึ่งมีอายุ 3 ขวบ วิ่งหนีออกมาตอนนั้นไม่คิดอะไรแล้วนอกจากความปลอดของตนและลูก ทุกวันนี้ยังคงรู้สึกกลัวและหวาดระแวงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ดีที่มีเจ้าหน้าที่เข้ามาดูแลมาประเมินผลสภาพจิตใจอย่างต่อเนื่องรวมถึงสภาพความเสียหายของทรัพย์สินด้วย ต้องขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่ได้เข้ามาดูแลให้กำลังใจอย่างเต็มที่ไม่ทอดทิ้งให้ยืนอยู่ลำพังถึงแม้ขั้นตอนอาจจะมีความล่าช้าไปบางแต่เชื่อว่าทุกคนจะได้รับการเยียวยาอย่างดีที่สุด
ทั้งนี้เหตุการณ์ดังกล่าวมีผู้ที่ได้รับผลกระทบฯ จำนวนทั้งสิ้น 93 คน แบ่งเป็นผู้ได้รับผลกระทบด้านร่างกายจำนวน 51 ราย เป็นเจ้าหน้าที่รัฐ 26 ราย ซึ่งเสียชีวิต 1 ราย ซึ่งได้ดำเนินการช่วยเหลือเยียวยาตามหลักเกณฑ์ โดยมอบแก่ทายาทไปแล้วเป็นเงินจำนวน 500,000 บาท และเจ้าหน้าที่รัฐที่ได้รับบาดเจ็บอีก 25 ราย และประชาชน 25 ราย ดำเนินการไปแล้ว 44 ราย รายละ 10,000 บาท เหลืออีก 6 ราย ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการยื่นขอรับการ
ช่วยเหลือเพิ่มเติมและรอเอกสารใบรับรองแพทย์ ระบุระดับความรุนแรงของบาดแผล ในส่วนผู้ได้รับผลกระทบด้านทรัพย์สิน จำนวน 72 ราย เป็นทรัพย์สินของหน่วยงานของหน่วยงานราชการ จำนวน 4 แห่ง เป็นทรัพย์สินส่วนบุคคล จำนวน 68 ราย เบื้องต้นอยู่ในระหว่างการดำเนินการรวบรวมเอกสารหลักฐานและรายการ ความเสียหาย ของทรัพย์สินทั่วไป