เลขาธิการ ศอ.บต. ร่วมประชุมผู้บริหารระดับสูงของส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเพื่อเตรียมการประชุมร่วมกับคณะกรรมาธิการการทหารและความมั่นคงของรัฐ วุฒิสภา 9 พฤศจิกายนนี้
วันนี้ (28 ตุลาคม 2565) ที่ ห้องประชุมวิจิตรวาทการ ชั้น 3 อาคารสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติ ทำเนียบรัฐบาล กรุงเทพมหานคร พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ร่วมประชุมผู้บริหารระดับสูงของส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเพื่อเตรียมการประชุมร่วมกับคณะกรรมาธิการการทหารและ ความมั่นคงของรัฐ วุฒิสภา โดยมี พลเอก สุพจน์ มาลานิยม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เป็นประธานการประชุม
สำหรับการประชุมในครั้งนี้ เป็นการประชุมเพื่อซักซ้อมและเตรียมชี้แจงนโยบาย แนวความคิดและการจัดทำแผนขับเคลื่อนและแผนปฏิบัติการแบบบูรณาการในการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ต่อ คณะกรรมาธิการการทหารและความมั่นคงของรัฐ วุฒิสภา ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 9 พฤศจิกายน 2565 นี้ โดยที่ประชุมได้มีการร่วมพิจารณาแนวทางการจัดทำแผนขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ รองรับแผนปฏิบัติการฯ ระยะที่ 2 (พ.ศ.2566-2570) และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นอื่นๆ
ทั้งนี้นโยบายและแผนปฏิบัติการถูกกำหนดเป็นเครื่องมือในระดับนโยบายและการแปลงนโยบายสู่การปฏิบัติ ผ่านการกำหนดเป้าหมาย/ตัวชี้วัด รวมทั้งแนวทางการพัฒนาภายใต้นโยบาย ยุทธศาสตร์ และแผนหลักต่างๆที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้ ได้กำหนดให้มีแผนงานบูรณาการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นเครื่องมือสำหรับการจัดสรรงบประมาณในลักษณะบูรณาการเพื่อสนับสนุนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ขับเคลื่อนงานตามแนวนโยบายและแผนปฏิบัติการฯผ่านการจัดทำโครงการ/กิจกรรม ภายใต้แผนงานและโครงการที่สำคัญที่กำหนดไว้ในแต่ละปีงบประมาณ
พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการ ศอ.บต. กล่าวว่า มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มาร่วมรับฟังและร่วมหารือ ปีนี้เป็นปีที่สำคัญมากๆ เป็นจุดเปลี่ยนของภาคใต้ ซึ่งทาง สมช. ได้เตรียมแผนระยะที่ 2 (พ.ศ.2566-2570) และรองรับนโยบาย ทุกภาคส่วนจึงต้องเดินหน้าในการมองภาพเดียวกัน โดยเฉพาะปี 2566 ว่าจะเดินหน้าไปในทิศทางใด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสิ่งที่ สมช.ได้กำหนดในเชิงนโยบายคือการให้ประชาชนเป็นศูนย์กลาง ภาพใหญ่ในการขับเคลื่อน คิดว่าสามารถขับเคลื่อนไปได้ทุกมิติ ทั้งนี้ภาพรวมในภาคใต้ทุกภาคส่วนกำลังเดินหน้าขับเคลื่อนทุกทิศทางไม่ว่าจะเป็นการสืบสานดำรงไว้ซึ่งอัตลักษณ์ เช่น ภาษา การแต่งกาย และการเข้าถึงสิทธิที่เท่าเทียม เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นและสามารถดำรงชีวิตได้อย่างมีความสุข
