“พิพัฒน์” ลุยคุมเข้มแรงงานต่างด้าว เดินหน้าปราบปรามแรงงานผิดกฎหมายทั่วประเทศ สร้างสมดุลแรงงานไทย–ต่างชาติ หนุนขึ้นทะเบียนถูกต้องในระบบ

“พิพัฒน์” ลุยคุมเข้มแรงงานต่างด้าว เดินหน้าปราบปรามแรงงานผิดกฎหมายทั่วประเทศ สร้างสมดุลแรงงานไทย–ต่างชาติ หนุนขึ้นทะเบียนถูกต้องในระบบ

 

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เผยผลการปฏิบัติการเข้มข้นของชุดเฉพาะกิจ “ไตรเทพพิทักษ์” ที่ลงพื้นที่ตรวจสอบแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายในจังหวัดนนทบุรีและชลบุรี โดยสามารถจับกุมแรงงานผิดกฎหมายได้รวม 34 ราย พร้อมย้ำชัดว่า กระทรวงแรงงานจะเดินหน้าบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง เพื่อให้แรงงานต่างชาติทำงานอย่างถูกต้อง ไม่แย่งอาชีพคนไทย และสร้างเสถียรภาพให้กับตลาดแรงงานไทย

 

รัฐมนตรีพิพัฒน์กล่าวว่า “เรายอมรับว่าแรงงานต่างชาติเป็นกลไกหนึ่งในระบบเศรษฐกิจ โดยเฉพาะภาคท่องเที่ยวและก่อสร้าง แต่ต้องอยู่ในกรอบกฎหมายไทย ไม่แย่งงานสงวนของแรงงานไทย กระทรวงแรงงานจะเดินหน้าควบคุมอย่างเข้มข้น ทั้งการตรวจจับและการส่งเสริมให้ขึ้นทะเบียนในระบบ MOU อย่างถูกต้อง”

 

ปฏิบัติการครั้งนี้ มอบหมายให้ นายพิเชษฐ์ ทองพันธ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน ร่วมกับกรมการจัดหางาน เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และฝ่ายความมั่นคง ลงพื้นที่ตรวจสอบแรงงานผิดกฎหมาย โดยที่จังหวัดนนทบุรี ตรวจพบแรงงานต่างด้าวกระทำผิด พ.ร.ก.การบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. 2560 รวม 19 ราย และที่จังหวัดชลบุรีอีก 15 ราย รวมเป็น 34 ราย ซึ่งทั้งหมดถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย และเตรียมผลักดันกลับประเทศ

 

แรงงานที่ไม่มีใบอนุญาตทำงานมีโทษปรับ 5,000 – 50,000 บาท พร้อมผลักดันกลับประเทศ
นายจ้างที่จ้างแรงงานเถื่อนมีโทษปรับ 10,000 – 100,000 บาทต่อคน หากทำผิดซ้ำ มีโทษสูงสุดจำคุก 1 ปี หรือปรับ 50,000 – 200,000 บาท และห้ามจ้างแรงงานเป็นเวลา 3 ปี

นายพิพัฒน์ ย้ำว่า นโยบายแรงงานต่างด้าวของรัฐบาลชุดนี้ไม่ใช่เพียงการควบคุม แต่คือการสร้าง “สมดุล” ที่ชัดเจนระหว่างความต้องการแรงงานจากภาคธุรกิจ กับการปกป้องสิทธิและโอกาสในการทำงานของแรงงานไทย พร้อมทั้งสนับสนุนให้นายจ้างนำแรงงานเข้าระบบผ่านช่องทาง MOU ที่ถูกต้องตามกฎหมาย

“เราจะไม่ปล่อยให้แรงงานเถื่อนทำลายตลาดแรงงานไทยอีกต่อไป ขอให้นายจ้างเร่งนำลูกจ้างขึ้นทะเบียนให้ถูกต้อง และขอให้แรงงานต่างด้าวทุกคนทราบว่า ประเทศไทยมีกฎหมายที่ชัดเจน อาชีพบางอย่างเป็นของแรงงานไทยเท่านั้น ท่านต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด” รัฐมนตรีแรงงานกล่าว

กระทรวงแรงงานจะยังคงตรวจสอบอย่างต่อเนื่องทั่วประเทศ พร้อมเปิดรับข้อมูลและเบาะแสจากประชาชน เพื่อร่วมกันปกป้องตลาดแรงงานไทยให้มั่นคงและยั่งยืน

Related posts