”พิพัฒน์“ มองไกล ปลุกดูแลผู้สูงวัยพร้อมสวัสดิการเตรียมแรงงานชราบาล ส่งออกปรับมาตราฐานร่วม ญี่ปุ่น

”พิพัฒน์“ มองไกล ปลุกดูแลผู้สูงวัยพร้อมสวัสดิการเตรียมแรงงานชราบาล ส่งออกปรับมาตราฐานร่วม ญี่ปุ่น

 


.
วันที่ 19 ธันวาคม 2567 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วย นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน นายสมชาย มรกตศรีวรรณ อธิบดีกรมการจัดหางาน นายเดชา พฤกษ์พัฒนรักษ์ อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน เรือเอก สาโรจน์ คมคาย อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน นางมารศรี ใจรังษี เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม และคณะกรรมการกองทุนเงินทดแทน ศึกษาดูงานด้านการบริบาลผู้สูงอายุ และเยี่ยมผู้ฝึกปฏิบัติงาน/แรงงานทักษะเฉพาะชาวไทย จำนวน 16 คน ณ ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ Nursing Care Insurance Facility Midori (Medical Corporation Midori-Kai) ประกอบด้วย ผู้ฝึกปฏิบัติงานด้านเทคนิค 8 คน และแรงงานทักษะเฉพาะ 8 คน และ โรงพยาบาลชินคาวาบาชิ (Medical Corporation Meitokukai) ซึ่งรับผู้ฝึกงานและแรงงานทักษะเฉพาะจากประเทศไทยเพียงชาติเดียว และปัจจุบัน มีผู้ฝึกปฏิบัติงานไทยทำงานอยู่ จำนวน 5 คน ที่ประเทศญี่ปุ่น


.
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า รัฐบาลญี่ปุ่นได้ประมาณการความต้องการจ้างงานแรงงานทักษะเฉพาะในสาขาบริบาลดูแลผู้สูงอายุไว้ ประมาณ 135,000 คน ซึ่งประสบกับการเข้าสังคมผู้สูงวัย เช่นเดียวกับประเทศไทยที่มีอัตราการเกิดต่ำและผู้สูงอายุมากขึ้น ดังนั้น จึงต้องมีการเตรียมแรงงานภาคบริบาลโดยให้กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน พัฒนาให้ได้มาตรฐานสากล โดยมาศึกษาที่ญี่ปุ่นเพื่อนำนวัตกรรม เทคโนโลยีมาปรับใช้ โดยกรมพัฒนาฝีมือแรงงานจะไปทำหลักสูตรร่วมกับสถาบันการศึกษา โรงพยาบาล เพื่อเตรียมแรงงานให้เพียงพอ รองรับในอนาคต

 

โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และคณะ ได้พบปะให้กำลังใจพร้อมชมการทำงานของผู้ฝึกปฏิบัติงาน ณ แผนกศัลยกรรมกระดูกและข้อ ที่สาธิตการใช้เครื่องยกผู้ป่วยจากรถเข็นไปยังอ่างอาบน้ำ และ การเปลี่ยนผ้าปูเตียงในห้องผู้ป่วย โดยย้ำกับ Mr. Toru Utsumi (คุณโทรุ อุสึมิ) ประธานโรงพยาบาลชินคาวาบาชิ ว่า กระทรวงประเทศไทย ยินดีให้การสนับสนุน อำนวยความสะดวก สนับสนุนด้านบุคลากร งานด้านบริบาล และด้านอื่นๆอย่างเต็มที่ โดยสามารถประสานกับสำนักงานแรงงานไทยในประเทศญี่ปุ่นได้ ในอนาคตทราบว่า รพ.มีแผนการรับแรงงานไทย จำนวนปีละ 5 คน ซึ่งนับเป็นโอกาสดีของแรงงานไทยที่จะได้มีโอกาสมา เรียนรู้ทักษะเทคโนโลยี การทำงานในประเทศญี่ปุ่น และนำกลับไปพัฒนาประเทศ ต่อไปได้

 

.
ด้าน นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวงแรงงานยินดีสนับสนุนและให้ความร่วมมือ โดยกระทรวงแรงงานพร้อมกับทุกหน่วยงานในสังกัด จะพัฒนาทักษะแรงงาน และจัดส่งแรงงานเข้ามาทำงานได้อย่างไม่จำกัด ซึ่งสามารถแจ้งเข้ามาที่กระทรวงแรงงานได้เลย รวมถึงสถานบริบาลในประเทศไทยด้วย เพื่อให้ความสำคัญและดูแลผู้สูงอายุ ทั้งการดูแลและสวัสดิการทางสังคม

Related posts