ศรีสะเกษ อัศจรรย์เมฆบดบังดวงอาทิตย์ครบรอบ 23 ปีวันละสังขารหลวงปู่สรวง ขณะที่หลวงพ่อพุฒ หลวงพ่อเทียนชัย 2 ศิษย์เอกนำคณะศิษย์นับพันประกอบพิธีทำบุญสืบสานพระพุทธศาสนาบูชามหาปูชนียาจารย์ ทำบุญครบรอบ 23 ปี วันคล้ายวันละสังขารหลวงปู่สรวง
เมื่อวันที่ 8 ก.ย. 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วัดไพรพัฒนา ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ พล.ต.ณัฏฐ์ ศรีอินทร์ ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี ได้เดินทางไปเป็นประธานในพิธีทำบุญสืบสานพระพุทธศาสนาบูชามหาปูชนียาจารย์ ทำบุญครบรอบ 23 ปี วันคล้ายวันละสังขารหลวงปู่สรวง 8 ก.ย. 2566 ซึ่ง พระครูโกศลสิกขกิจ หรือหลวงพ่อพุฒ วายาโย ประธานมูลนิธิหลวงปู่สรวง เจ้าคณะอำเภอภูสิงห์ (ธ.) และเจ้าอาวาสวัดไพรพัฒนา ร่วมกับ พระวัชรญาณมุนี หรือพระอาจารย์เทียนชัย ชยทีโป เจ้าอาวาสวัดเทพสรธรรมาราม (บาย ตึ๊ก เจีย) จ.ปทุมธานี ซึ่งเป็น 2 ศิษย์เอกก้นกุฏิของหลวงปู่สรวง เทวดาเดินดิน ได้นำคณะศิษยานุศิษย์จำนวนประมาณ 1,000 คน ร่วมกันจัดพิธีนี้ขึ้น ซึ่ง ดร.กัญญารัตน์ จงวิไลเกษม ประธานกรรมการบริษัท ไบ – เทค เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด ได้มีการจัดเครื่องบวงสรวงอย่างสวยงามและยิ่งใหญ่มาก มีคณะบัณฑิตพราหมณ์มาประกอบพิธีบวงสรวงเทพเทวาบูชาคุณหลวงปู่สรวง โดยมีคณะศิษยานุศิษย์ของหลวงปู่สรวงจากทั่วประเทศ นำโดย แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ สมาชิกวุฒิสภา พร้อมด้วย พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายก อบจ.ปทุมธานี พล.อ.อ.สักก์สกล แสงสุกรัตน์วดี ที่ปรึกษา นายก อบจ.ปทุมธานี คุณกรลักษณ์ โคอิเกะ คหบดีจากกรุงเทพฯ คุณณัฐรินทร์ ชูเศรษฐวงศ์ เจ้าของร้านอาหารมายโฮม จ.อุบลราชธานี ได้พากันนุ่งขาวห่มขาวมาร่วมในพิธีมากกว่า 1,000 คน
ซึ่งปรากฏว่า ขณะที่กำลังทำการประกอบพิธีทำบุญสืบสานพระพุทธศาสนาบูชามหาปูชนียาจารย์อยู่นั้น ได้เกิดเหตุอัศจรรย์ขึ้น เนื่องจากว่า ท้องฟ้าที่มีแสงแดดจ้าอากาศร้อนจัดอบอ้าวอย่างหนัก ปรากฏว่า ได้เกิดมีเมฆมืดดำลอยมาบดบังดวงอาทิตย์ ทำให้แสงแดดของดวงอาทิตย์หายไป ส่งผลให้รอบบริเวณวัดไพรพัฒนาคลายจากอากาศร้อนอบอ้าวและมีความร่มเย็นขึ้นมาทันที จนกระทั่งการประกอบพิธีแล้วเสร็จ ซึ่งบรรดาคณะศิษย์หลวงปู่สรวงทุกคนต่างพากันประหลาดใจมาก และพากันพนมมือกล่าวสาธุ เนื่องจากเชื่อกันว่า เป็นเพราะบุญฤทธิ์ของหลวงปู่สรวง จึงทำให้เกิดเหตุอัศจรรย์นี้ขึ้นมา ซึ่งในการจัดพิธีครั้งนี้ มีการประกอบพิธีทำวัตรเช้า เจริญจิตภาวนา แผ่เมตตา พิธีทำบุญตักบาตร และถวายภัตตาหารเช้าแด่พระภิกษุสงฆ์ -สามเณร มีการจัดพิธีเทวะตาพลี ยกธง จำนวน 9 ต้น รอบมณฑปหลวงปู่สรวง ทั้งนี้เพื่อเป็นการทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้กับเทวดาเป็นพิธีที่มีมาแต่โบราณกาล โดยมี นายสำเร็จ ไพรบึง นายก อบต.ไพรพัฒนา นายบุญมี เสนคราม กำนัน ต.ไพรพัฒนา นำคณะข้าราชการ พ่อค้า ประชาชนมาร่วมพิธีครั้งนี้จำนวนมาก
พระครูโกศลสิกขกิจ หรือหลวงพ่อพุฒ วายาโย ประธานมูลนิธิหลวงปู่สรวง เจ้าคณะอำเภอภูสิงห์ (ธ.) และเจ้าอาวาสวัดไพรพัฒนา ศิษย์เอกผู้รับมรดกธรรมของหลวงปู่สรวง และเป็นผู้มีความกตัญญูเป็นเลิศ กล่าวว่า หลวงปู่สรวงได้ละสังขารอย่างสงบ เมื่อเวลา 19.00 น. ของวันที่ 8 กันยายน 2543 อาตมาภาพจึงได้อัญเชิญสรีระสังขารของหลวงปู่มาไว้ที่ศาลาของวัดไพรพัฒนา พร้อมกับจุดธูปอธิษฐานว่า “หากเป็นความประสงค์ของหลวงปู่ที่จะให้ลูกหลานได้บำเพ็ญกุศลในที่นี่จริงก็ขอให้ดำเนินการไปโดยเรียบร้อย และก็ขอให้มีลูกศิษย์ของหลวงปู่เดินทางมาร่วมบำเพ็ญกุศลโดยทั่วกันด้วย” ซึ่งได้มีการจัดบำเพ็ญกุศลให้กับหลวงปู่มาอย่างต่อเนื่องทุกปี มาจนถึงปัจจุบันนี้ ในปีนี้ หลวงปู่สรวง ได้ครบรอบวันคล้ายวันละสังขารครบรอบ 23 ปีแล้ว คณะศิษย์หลวงปู่สรวง จึงได้ร่วมกันจัดงานพิธีทำบุญสืบสานพระพุทธศาสนาบูชามหาปูชนียาจารย์ บำเพ็ญกุศลครบ 23 ปี วันคล้ายวันละสังขารหลวงปู่สรวง 8 ก.ย. 2566 ขึ้นในวันนี้
พระครูโกศลสิกขกิจ หรือหลวงพ่อพุฒ วายาโม ประธานมูลนิธิหลวงปู่สรวง เจ้าคณะอำเภอภูสิงห์ (ธ) และเจ้าอาวาสวัดไพรพัฒนา กล่าวต่อไปว่า หลวงปู่สรวงเป็นชาวกัมพูชาที่เดินธุดงค์เข้ามาในเขตประเทศไทย แถบชายแดนไทย-กัมพูชา ท่านเป็นพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ และจะธุดงค์ไปตามสถานที่ต่าง ๆ ชาวบ้านที่มากราบจะเรียกขานท่านว่า “ลูกเอ็อวเบ๊าะ” หรือ “ลูกตาเบ๊าะ” ซึ่งเป็นภาษาเขมร หมายถึงพระดาบส เป็นพระผู้รักษาศีลอันบริสุทธิ์อยู่ตามถ้ำป่าเขาลำเนาไพร หลวงปู่สรวงท่านเป็นพระที่สันโดษ สมถะ มีอุเบกขาสูงสุด ให้ความเมตตากับผู้ที่เข้าไปกราบไหว้ทุกคน ให้ความสำคัญกับทุกคนเท่ากันหมดไม่ว่าเศรษฐี หรือคนธรรมดา ก็ไม่ได้รับสิทธิพิเศษ ทุกคนจะได้รับความเมตตาจากหลวงปู่เสมอมา จึงมีผู้มากราบไหว้หลวงปู่เป็นประจำ และจะกลับมาหาหลวงปู่อยู่เสมอ
พระครูโกศลสิกขกิจ ยังกล่าวด้วยว่า หลวงปู่สรวงท่านจะอยู่อย่างเรียบง่าย ชอบจำวัดอยู่ตามกระท่อมเล็ก ๆ มีกระดานไม้ปูไม่กี่แผ่นแค่พอนอนได้ ซึ่งจะเป็นที่สังเกตของชาวบ้านทั่วไปว่า หากหลวงปู่สรวงท่านไปจำวัดที่แห่งใด มักจะมีเสาไม้สูงปักอยู่ มีเชือกขาวขึงระหว่างกระท่อม เสาไม้หรือต้นไม้ข้างเคียงมีว่าวขนาดโตที่บุด้วยจีวรหรือกระดาษแขวนไว้เป็นสัญลักษณ์ และที่ขาดไม่ได้คือจะต้องให้ลูกศิษย์ก่อกองไฟไว้เสมอ เมื่อใครถวายอะไรมาให้ท่านไม่ว่าจะเป็นข้าวของเงินทอง ก็จะโยนเข้ากองไฟจนหมดสิ้น ซึ่งไฟ หรืออัคคีธาตุ ก็เป็นอีกหนึ่งกองกสิณที่พระอริยสงฆ์สายเหนือโลกใช้ฝึกจิต ไม่ให้ยึดมั่นถือมั่น ชาวบ้านได้พากันยกย่องท่านว่าเป็น ผู้วิเศษแห่งภูตะแบง และเรียกขานท่านว่า เทวดาเล่นดิน เรื่องราวของหลวงปู่สรวงมีเรื่องราวและอภินิหารต่างเล่าขานกันมากมายจากปากต่อปาก ทำให้ชื่อเสียงบุญฤทธิ์ของหลวงปู่สรวงเป็นที่กล่าวขานมาจนทุกวันนี้ หลวงปู่สรวงท่านได้ละสังขารเป็นเวลานาน 23 ปี แต่ว่า สรีระสังขารของหลวงปู่สรวงไม่ได้เน่าเปื่อย อาตมาภาพได้เก็บรักษาสรีระสังขารของหลวงปู่ไว้ในโลงแก้ว ภายในมณฑปที่วัดไพรพัฒนา ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งจะมีบรรดาศิษยานุศิษย์และพุทธศาสนิกชนชนพากันมากราบไหว้ขอพรจากหลวงปู่กันอย่างต่อเนื่อง และมักจะได้รับโชคตามที่ขอพรเอาไว้เป็นประจำอยู่เสมอ////////
ภาพ / ข่าว ศิริเกษ หมายสุข ผู้สื่อข่าวประจำ จ. ศรีสะเกษ