“ประชาธิปัตย์” กับนโยบายการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่”ทำมาแล้ว” และจะทำต่อไป
จะเห็นว่าเมื่อเข้า”สู่โหมด”ของการเลือกตั้ง ทุกพรรคการเมือง จะเร่งรีบในการนำเสนอ”นโยบาย”ของพรรคเพื่อเป็น”จุดขาย” เพื่อเป็นการ”จูงใจ” ให้ ประชาชนผู้มีสิทธิ์ ออกเสียง เลือก สส.ของพรรค และ”เลือกพรรค”ที่เป็นเจ้าของนโยบาย เพราะในการเลือกตั้งในปี 2566 จะเป็นการ”เลือกตั้ง”ที่ใช้”บัตร 2 ใบ” คือการ”เลือกคน” หมายถึง “สส เขต” และ”เลือกพรรค” หมายถึง “สส.ในระบบบัญชีรายชื่อ” ให้มากที่สุด เพื่อการเข้าไปจัดตั้งรัฐบาล
สำหรับพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งมี”ที่นั่ง” ในภาคใต้มากที่สุด นอกจากจะมี”นโยบายใหม่” เช่น “ สร้างเงิน,สร้างคน.สร้างชาติ” แล้ว “จุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์” ซึ่งเป็น”หัวหน้าพรรค” ยังเลือกที่จะใช้”นโยบาย”เดิม ที่เป็น”นโยบาย” ซึ่งทำได้จริง และถึงมือของ “ประชาชน”จริง เช่นนโยบาย”การประกันรายได้” ของเกษตรกร แต่จะ”ขยายขอบเขต”ของการ”ประกันรายได้”ไปสู่ อาชีพอื่นๆ ที่ไม่ใช่”เกษตรกร”ด้วย
ที่ผ่านมา จะเห็นว่า”ประชาธิปัตย์” เป็นพรรคการเมืองที่ มี”นโยบาย” ที่”ชัดเจน” และ”ต่อเนื่อง” ไม่ใช่จะมี”นโยบาย” ในช่วงที่มีการ”หาเสียง” เพื่อการเลือกตั้ง แต่เป็น”นโยบาย” ที่วางเป็น”รากฐาน” ของการ”แก้ปัญหา”และการ”พัฒนาประเทศอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมี”หลักฐาน” ยืนยัน ได้เป็นอย่างดี เช่น”โครงการนมโรงเรียน” และ”โครงการอาหารกลางวัน” “เงินกู้ กยศ. และอีกหลายโครงการที่”แยกย่อย” ลงมา ในกระทรวงศึกษาธิการ” เมื่อครั้งที่”คนของพรรคประชาธิปัตย์เข้าไปเป็น”รัฐมนตรี”
หรือ โครงการ”อสม”..เงินผู้สูงอายุ “ ยกระดับ สถานีอนามัย 10,000 แห่ง ให้เป็น “โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ หรือ “รพ.สต.” เมื่อครั้งที่ คนของ”ประชาธิปัตย์” เป็น”เจ้ากระทรวง” สาธารณสุข
ซึ่งจะเห็นได้ว่า ไม่ว่า”คนของประชาธิปัตย์” จะไปเป็น”เจ้ากระทรวงไหน” ก็จะเข้าไปเป็นผู้วาง”รากฐาน” ที่เป็น”นโยบาย” เพื่อให้เกิดความ”มั่นคง” ที่คนของพรรคการเมืองอื่น เมื่อเข้าไปเป็น”เจ้ากระทรวง” ได้ทำการ”สานต่อ” ทำให้ ดีขึ้นกว่าเดิม เช่น”เพิ่มค่าตอบแทน” ให้กับ อสม. และ เพิ่มเงินผู้สูงอายุ และ อื่นๆ ที่ “ประชาธิปัตย์” เป็นผู้ ทำเอาไว้ และ ไม่มีโครงการไหน ที่”ประชาธิปัตย์” ทำไว้ แล้วถูก”ยกเลิก” ซึ่ง แสดงให้เห็นว่า “นโยบาย” ที่พรรคประชาธิปัตย์ เป็นผู้”กำหนด” เป็น นโยบายที่”ถูกต้อง” และ เป็นประโยชน์ ทั้งกับประชาชน และ ประเทศชาติ
เช่น นโยบายการ”พัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้” ซึ่งในสมัยที่ผ่านมา”ประชาธิปัตย์” มี สส. เพียงคนใน จ.ปัตตานี กับอีก 3 คนของ จ.สงขลา แต่ “ประชาธิปัตย์” ไม่ได้”ละเลย” ในการแก้ปัญหา ของจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเฉพาะเรื่องของ”ความยากจน” ของคนใน จ.ปัตตานี,ยะลา” และ “นราธิวาส “จุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์” ใน ฐานะของ รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐบาลว่าการกระทรวงพาณิชย์ เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการเกษตรกระสหกรณ์ และ นิพนธ์ บุญญามณี ในฐานะของ รัฐมนตรีช่วยกระทรวงมหาดไทย วาง”นโยบาย” ในการ”พัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้” ผ่าน”ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ “ หรือ “ ศอ.บต.” ด้วย นโยบาย” ความมั่นคงของอาหาร สู่ครัวโลกมุสลิม” ด้วยการ ใช้”จุดแข็ง” ของพื้นที่ ซึ่งมีทั้ง ทรัพยากรทางทะเล และ การเกษตร ที่เป็น”อาชีพ” ที่คนในพื้นที่ทำอยู่แล้ว ให้มีความ”มั่นคง”ยิ่งขึ้น เช่นการ”ส่งเสริม”เรื่องการเกษตร ปลูก ทุเรียน,มังคุด” และ อื่นๆ และส่งเสริมอาชีพ”ประมง” เช่น โครงการ” ปูทะเลโลก” ที่เป็นที่ต้องการของ”ตลาด ต่างประเทศ” การ”ฟื้นฟู” นาร้าง จำนวน 300,000 ไร่ ให้กลับมาเป็น”นาข้าว” เพราะหลายพื้นที่มี”ชลประทาน”ที่สามารถ”หนุนเสริม”การ”ทำนา” ได้เป็นอย่างดี รวมทั้งการส่งเสริมให้”ปลุกไผ่” ซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจ”ตัวใหม่ เพื่อป้อน” โรงไฟฟ้าชีวะมวล” และใช้ใน” อุตสาหกรรม”อื่นๆ ที่มี”ตลาด”ให้การรองรับ
รวมทั้งในเรื่องของโครงการ”โคบาลชายแดนใต้” ที่มีการ”ผลักดัน”จาก กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในเรื่องของแหล่งเงินทุน จำนวน 1.5 พันล้านบาท เพื่อเป็น”กองทุน” ให้ เกษตรกร ตั้งกลุ่ม”วิสาหกิจชุมชน” ในการ เลี้ยงโคเนื้อ 50.000 ตัว ใน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งเป็น “นโยบาย” ที่ “ผลักดัน” มาก่อนที่จะมีการ”เลือกตั้ง” และ จะสามารถ ดำเนินการ ได้ภายในเดือน มกราคา 2566 ที่จะถึงนี้ และนี่คือโครงการ”โคบาลชายแดนใต้ สู่ระเบียงเศรษฐกิจฮาลาลจังหวัดชายแดนภาคใต้” ที่เชื่อมโยงกับโครงการ”ความมั่นคงทางอาหารสู่ครัวมุสลิมโลก” ที่เป็นโครงการที่”ทำได้จริง” ไม่ใช่เรื่อง”ขายฝัน” ที่”เหมาะสม” กับ สภาพของภูมิศาสตร์” ของจังหวัดชายแดนภาคใต้ และเป็น”อาชีพ” ที่คนใน จังหวัดชายแดนภาคใต้ “ทำได้”และ”ทำเป็น” ที่สำคัญ ถ้า”ทำสำเร็จ” จะเป็นการ”พลิกฟื้น” ชีวิตของ”ประชาชน” ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ไปสู่ความ”มั่นคงของครอบครัว” อย่างถาวร ซึ่งสอดคล้องกับ “นโยบายการ”หาเสียง” ของ ผู้สมัคร สส. ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ “พรรคประชาธิปัตย์” ให้ ผู้สมัครทุกคน ใช้ นโยบายการ”หาเสียง”ด้วย””ปรัชญา”ของ “ในหลวงรัชการที่ 9 “ นั่นคือ”เข้าใจ เข้าถึง และ พัฒนา”
วันนี้”ประชาธิปัตย์” เดินหน้าเข้าสู่”สนามการเลือกตั้ง” โดย”ไม่ตกปลาในบ่อเพื่อน” ไม่ออก”เคมเปญ” ใหม่ๆ เพียงเพื่อการ”ขายฝัน” แต่เลือกที่จะอยู่บน”ฐานของความเป็นจริง” และ”เป็นไปได้” ซึ่งแสดงให้เห็นว่า “ประชาธิปัตย์” คือ พรรคการเมือง ที่เป็น”สถาบันทางการเมือง” ที่ ประชาชน ต้องให้การ”สนับสนุน” เพื่อเข้าไปเป็น”รัฐบาล” ในการ นำประเทศชาติไปสู่”การพัฒนา” ที่ยั่งยืน
เมือง ไม้ขม