“ประชาธิปัตย์” กับการเลือกตั้งในพื้นที่”ปลายด้ามขวาน” ที่ขุนพล”อย่าง”นิพนธ์ บุญญามณี” วางยุทธศาสตร์ “เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา” และการ “เชื่อมต่อ” กับ “ชมรมต้มยำกุ้ง”ในประเทศ”มาเลเซีย”
และแล้ว” อันวาร์ สาและ” สส.หนึ่งเดียวของ”ประชาธิปัตย์” เขต 1 จ.ปัตตานี “ไขก๊อก” ยื่นไปลาออก จากพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมทั้งการ”วิพากษ์วิจารณ์” ถึง”บ้านเก่า” ที่เป็นที่”เกิด” ทางการเมืองของตนเองให้”เสียหาย” อีกครั้ง ก่อนที่จะเดินไปเป็นสมาชิกของ”พรรคลุงป้อม” หรือ” พลังประชารัฐ” ข่าวว่า นอกจากจะลงสมัคร สส.ในเขตเดิม คือ เขต 1 ปัตตานี แล้ว ยังจะได้เป็นผู้”รับผิดชอบ” การเลือกตั้งใน จ.ปัตตานี ของ “พลังประชารัฐ” ด้วย ใหญ่”มะเริ่มเทิ้ม” กว่าอยู่กับ”ประชาธิปัตย์” ตั้งเยอะ แต่จะ “สอบได้” หรือ”สอบตก” ยังไม่มีใครตอบได้
เพราะเขต 1 ประชาธิปัตย์” จ.ปัตตานี คะแนนส่วนหนึ่งที่ทำให้”อันวาร์” เป็น สส.ติดต่อกันถึง 4 สมัย ไม่ได้เป็นคะแนนความ”รักซอบ”ของ”อันวาร์” เป็นการ”ส่วนตัว” แต่เป็น”คะแนนพรรค” ของคนใน เขต 1 ที่สนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ มาโดยตลอด เมื่อ”อันวาร์” ไปลงสมัครใน”พรรคการเมืองอื่น” คะแนนส่วนนี้ไม่ได้ตาม”อันวาร์” ไปด้วย และหาก”นิพนธ์” บุญญามณี” ขุนพลผู้รับผิดชอบพื้นที่ “ปลายด้ามขวาน” 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ “ฟูมฟัก” ผู้สมัครของพรรค ที่ลงรับการเลือกตั้งใน เขต 1 ที่ต้อง”ชน”กับ”อันวาร์” ให้”ถึงน้ำถึงเนื้อ” โอกาสที่”ประชาธิปัตย์” จะ”ปักธง” ในเขต 1 สำเร็จ มีความเป็นไปได้สูงยิ่ง
โดยเฉพาะในการ “เลือกตั้ง” ที่จะมาถึงในปี 2566 “นิพนธ์ ว่า”ยุทธศาสตร์” ในการ”เลือกตั้ง” ด้วยการใช้”ยุทธศาสตร์พระราชทาน” เข้าใจ ,เข้าถึง. พัฒนา” ให้ ผู้สมัครทุกคนใน 12 เขต เลือกตั้งของ 3 จังหวัด อันประกอบด้วย จ.ปัตตานี,ยะลา และ นราธิวาส
มีการ”ติวเข้ม” ว่าที่ผู้สมัครและ “คณะทำงาน” ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อให้”เข้าใจ” ถึงการนำ”ยุทธศาสตร์พระราชทาน” ไปใช้ในการ”หาเสียง” ในการลงพื้นที่เพื่อ”พบปะ” กับ”ประชาชน” เป็นการ ย้ำให้เห็นถึง การดำเนินงานทาง”การเมือง” ของ”ประชาธิปัตย์” ที่เห็นถึงความสำคัญของ”ยุทธศาสตร์พระราชทาน” เน้นการ”เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา ซึ่งเป็น”แนวทาง” ที่ กองทัพ และ หน่วยงานราชการ ใน จังหวัดชายแดนภาคใต้ใช้”ขับเคลื่อน” เพื่อแก้ปัญหาความไม่สงบ และพัฒนาพื้นที่ พัฒนา”คุณภาพชีวิต” ของ “ประชาชน” ในจังหวัดชายแดนภาคใต้
“นิพนธ์ “ กล่าวเพิ่มเติมถึง”ยุทธศาสตร์” ของ”ประชาธิปัตย์” ในการ”นำทัพ” เพื่อการ”ปักธง” ในพื้นที่”ปลายด้ามขวาน” ว่า ปัญหาความไม่สงบ และความยากจน ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ต้องใช้”ยุทธศาสตร์พระราชทาน” จาก”ในหลวง ร. 9 อย่าง”จริงจัง” เพื่อให้เป็นผลสำเร็จ ซึ่งหาก “ประชาธิปัตย์” ได้รับการเลือกตั้งเข้าไปเป็น”ผู้แทน” ก็จะ ผลักดัน”ยุทธศาสตร์พระราชทาน” เพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นใน จังหวัดชายแดนภาคใต้
ในอดีต สมัยที่ “ประชาธิปัตย์” เป็น”รัฐบาล” สามารถทำให้ สถานการณ์ความรุนแรง ลดลงได้ในระดับที่น่าพอใจ และ ที่สำคัญ เรื่อง”การศึกษา” คือปัญหาใหญ่ ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ สมัยที่ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้เป็นผู้”ผลักดัน”ในการ จัดงบให้โรงเรียนเอกชน มีการสอนวิชาอิสลามศึกษา ริเริ่มให้มีโครงการ ทัศนศึกษา เป็นเจ้าของ นโยบาย “คืนครูให้นักเรียน,การสร้างครูพันธุ์ใหม่ และเรื่องของ”ติวเตอร์ชันแนล
มีการกำหนด”ยุทธศาสตร์”ยกระดับ คุณภาพมาตรฐานการศึกษา ด้วยนโยบายสถานศึกษา 3 ดี ส่งเสริมประชาธิปไตย,คุณธรรม และ ห่างไกลยาเสพติด ที่สำคัญโครงการ อาหารกลางวันฟรี นมฟรี ตั้งแต่ชั้นเด็กเล็ก จนถึงนักเรียน ป.6 เป็น นโยบาย ที่เกิดขึ้น จากพรรคประชาธิปัตย์ สมัยที่ “จุรินทร์” เป็น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาทั้งสิ้น ซึ่ง โรงเรียน ครู นักเรียน ได้ประโยชน์ทั้งประเทศ และการศึกษาก็มีการ”พัฒนา” ที่ถูก”แนวทาง” เพียงแต่ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีปัญหามากกว่าภูมิภาคอื่นๆ ซึ่งหาก”ประชาธิปัตย์” มี สส. หรือ มีโอกาสเป็น”รัฐบาล” จะทำการ “ผลักดัน” ในเรื่อง”การศึกษา” ในจังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างเร่งด่วน “ประชาธิปัตย์” มี”จุดเด่น” ในเรื่องการแก้ปัญหา และการ”พัฒนาเรื่องการศึกษา ในอดีต สส.”ประชาธิปัตย์” ใน จ.นราธิวาส เคยได้รับการแต่งตั้งให้เป็น รมต. กระทรวงศึกษาธิการด้วยซ้ำ
และอีกเรื่อง ที่เป็น”นโยบาย” ของพรรคประชาธิปัตย์ คือการนำเอาปัญหาของ”คนไทย” ที่อาศัยอยู่ในประเทศมาเลเซีย ในรัฐต่างๆ เพื่อ”ทำมาหากิน” ทั้งที่อยู่ใน”ชมรมต้มยำกุ้ง” ซึ่งเปิดร้านขายอาหาร และที่ประกอบอาชีพอื่นๆ ซึ่งได้รับความเดือดร้อนอย่างมากมาช้านาน เช่นปัญหาของใบอนุญาตในการ”ทำงาน” หรือ”เวิร์ค พอร์มิท” การออกหนังสือเดินทาง”พาสปอร์ต” ใบอนุญาตการขับขี่รถยนต์-จยย. หรือ”ใบขับขี่” การ”แจ้งเกิด แจ้งตาย” ในการของคนไทย ที่เข้าไปประกอบอาชีพในประเทศมาเลเซีย รวมทั้งเรื่อง”คุณภาพชีวิต” ที่เป็นปัญหาของ พี่น้องชาวไทยมุสลิม และ”ไทยพุทธ” ที่อาศัย และประกอบอาชีพจำนวนนับแสนคนในประเทศมาเลเซีย
และล่าสุด เมื่อวันที่ 16 ธ.ค. ที่ผ่านมา ได้มีตัวแทนของ”ชมรมต้มยำกุ้ง” เดินทางเข้าพบ”นิพนธ์ บุญญามณี” พร้อมหนังสือร้องขอความช่วยเหลือจากรัฐบาล ให้ประสานงานกับประเทศมาเลเซีย เพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น ซึ่ง”นิพนธ์” ได้กล่าวกับตัวแทนของ”ชมรมต้มยำกุ้ง” ว่าจะดำเนินการ ประสานงานกับ”นายกรัฐมนตรี “ และ กระทรวงที่เกี่ยวข้อง เพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น
เห็น”ย่างก้าว” การเปิด”เกมรุก” ทาง”การเมือง” เพื่อหวังที่จะ”ปักธง” ในสนาม เลือกตั้ง ณ “ปลายด้ามขวาน” ของ”ประชาธิปัตย์” ที่”นิพนธ์” เป็น”ขุนทัพ” ครั้งนี้ จะเห็น”ยุทธศาสตร์” การ”ขับเคลื่อน” ที่ชัดเจน และ ผู้สมัครที่”ประชาธิปัตย์” ส่งลงรับเลือกตั้งในครั้งนี้ มีเสียง”ตอบรับ” จากคนในพื้นที่อย่างดียิ่ง โอกาที่”ประชาธิปัตย์” จะ”คืนฟอร์ม” มี สส.ทั้ง 3 จังหวัด ไม่ใช่เรื่อง”ฝันกลางวัน” แต่เป็น”เรื่องจริง” ที่ได้รับการ”ยืนยัน” จาก “ประชาชน” ในพื้นที่